ทุก ๆ ปีการแข่งขันบนโลกการตลาดออนไลน์จะมีแนวโน้มโหดขึ้น และคู่แข่งเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆการสร้างโฆษณาก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากขึ้นในทุกช่องทาง แพลตฟอร์มใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ มีการเปลี่ยนแปลงและเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจที่พึ่งพาการทำการตลาดเพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย วันนี้จึงยกตัวอย่างเทคนิคการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม Facebook ครอบคลุมการทำ Facebook Ads เพื่อให้เจ้าของธุรกิจสามารถปรับตัวและปรับใช้ให้ผลลัพธ์การค้นหาของลูกค้ามีเราเป็นตัวเลือก
ข้อควรรู้ก่อนทำการตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Facebook
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบัน Facebook ถือเป็นแพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์หรือ Social Media Marketing ที่ได้ผลลัพธ์ดีเป็นลำดับต้น ๆ ในเวลานี้ เพราะนอกจากจะมีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากอยู่แล้ว ยังมีค่าเฉลี่ยผู้ใช้งานที่เปิดบัญชีใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าภายในปีพ.ศ. 2567 แพลตฟอร์ม Facebook จะสามารถเข้าถึงคนจำนวนมากทะลุ 75% ของประชากรทั่วโลก
แม้จะเห็นถึงข้อได้เปรียบของ Facebook ที่สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้แล้ว ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีระบบการทำโฆษณา Facebook Ads ที่มีประสิทธิภาพและสามารถเจาะจงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ค่อนข้างละเอียดชัดเจน แต่ภาพรวมทั้งหมดจะดีขึ้นได้หากเจ้าของธุรกิจให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มากพอ ดังนี้
1.Mood & Tone ที่แสดงถึงตัวตนของธุรกิจอย่างชัดเจน
การทำการตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Facebook อันดับแรก คือ การสร้างการรับรู้ เพื่อให้ผู้อื่นรับทราบถึงการมีอยู่ของแบรนด์ หยุดดู หยุดอ่านสื่อที่นำเสนอออกไป สังเกตได้จากโฆษณาต่าง ๆ Facebook Ads หากสื่อมีความน่าสนใจ ประโยคเด็ดโดนใจ ภาพและสื่อดูสะดุดตาน่าอ่าน ผู้คนที่ผ่านไปมาก็มีโอกาสที่จะหยุดดูคอนเทนต์นั้น ๆ ซึ่งเป็นการสร้างตัวตนอย่างง่ายที่ใคร ๆ ก็ทำได้ นอกจากภาพลักษณ์ Mood & Tone ที่ควรแสดงตัวตนอย่างชัดเจนบนหน้า Facebook Page แล้วนั้น Content Marketing ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยดึงดูดสายตาและสร้างการรับรู้ได้ดีในกรณีที่สื่อไปปรากฏบนหน้าฟีดของกลุ่มคนจำนวนมาก แม้เริ่มแรกอาจจะใช้เวลาไปกับส่วนนี้มากเป็นพิเศษ แต่เมื่อไรก็ตามที่ผู้คนเริ่มจดจำแบรนด์ได้ ก็จะทำให้เกิดการจดจำระยะยาว เปลี่ยนจากผู้พบเห็นผ่านตามาเป็นลูกค้าในอนาคต จนนำไปสู่การบอกต่อปากต่อปากได้
2.เทคนิคการตลาดออนไลน์เพื่อสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง
“เพราะสินค้ารูปแบบเดียวกันทำให้ผลลัพธ์การขายอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย การสร้างความแตกต่างจึงเป็นเทคนิคเรียกผู้บริโภคให้มาสะดุดตาและเกิดความสนใจในสินค้าของเราได้”
เมื่อแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักและเกิดการรับรู้บ้างแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการทำโฆษณา Facebook Ads เพื่อสื่อสารออกไปให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายทราบว่าเรามีดีและแตกต่างจากที่อื่นอย่างไร ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาวัดใจของลูกค้าเลยก็ว่าได้ โดยองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกเรา หนึ่งในนั้นคือการสร้างคอนเทนต์และการสื่อสารที่แตกต่างแต่เข้าใจง่าย ตรงตามความต้องการหรือสามารถเรียกความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้
3.ความน่าสนใจโปรโมชันสู่การปิดการขายได้อย่างสมบูรณ์
หัวใจสำคัญของการทำการตลาดทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การตลาดออนไลน์ หรือ การตลาดออฟไลน์ การสร้างโปรโมชันที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าถือเป็นการวางกลยุทธ์สำคัญ เพราะขั้นตอนถัดมาต่อจากการสร้างการรับรู้ได้แล้วนั้น ปัจจัยความน่าสนใจของโปรโมชันจะเข้ามากระตุ้นให้การซื้อขายสำเร็จลุล่วง เพราะทุกคนล้วนมีความรู้สึกเสียดายเกิดขึ้นเสมอเมื่อพลาดโอกาสบางอย่างไป
สิ่งที่คนทำการตลาดออนไลน์บน Facebook มักทำพลาด
- ไม่ได้ให้ความสนใจ Facebook Page ที่เปรียบเสมือนหน้าร้าน
การสร้างภาพลักษณ์บน Facebook ดูไม่น่าเชื่อถือ ต่อให้หน้าร้านจะดูดีหรือมีสินค้าที่ได้มาตรฐานมากขนาดไหน หากเพจที่เปรียบเสมือนหน้าร้านบนโลกออนไลน์ดูไม่น่าเชื่อถือ ผู้ที่มีความสนใจหรือเข้ามาเพื่อซื้อจะเกิดความลังเลใจ เช่น ภาพหน้าปก (Cover Page) สื่อที่สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้ควรเป็นจุดขายของร้าน บรรยากาศดี ๆ โปรโมชันโดน ๆ ฯลฯ - ข้อมูลของธุรกิจ (Bio)
หลาย ๆ ร้านลงรายละเอียดธุรกิจเพียงแค่ใส่ชื่อร้านลงไป ในความเป็นจริง Facebook Page สามารถเชื่อมโยง Instagram เข้าไปได้หรือสามารถอธิบายตัวตนของธุรกิจได้มากกว่านั้น เช่น เว็บไซต์ เบอร์โทรศัพท์ เวลาทำการ และอื่น ๆ หากธุรกิจไหนแปะข้อมูลน้อย ความน่าเชื่อถือก็ดูจะลดน้อยลงตามไปด้วยเช่นกัน - Ci ไม่ชัดเจน
Ci (Corporate Identity) หรืออัตลักษณ์องค์กร/แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ โพสต์ เรื่องของดีไซน์อื่น ๆ ควรเป็นภาพลักษณ์เดียวกัน - เน้นขายของอย่างเดียว
ไม่มีลูกค้าคนไหนที่จะเข้ามาเพื่อซื้อตลอดเวลา เพราะลูกค้าทราบอยู่แล้วว่าธุรกิจนั้น ๆ ขายสินค้าหรือบริการอะไร ควรมีคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ เช่น คอนเทนต์ให้ความรู้ คอนเทนต์ให้แรงบันดาลใจ คอนเทนต์สนุกสนานตามกระแส เพียงแต่ทั้งหมดต้องใส่สินค้าหรือจุดยืนลงไปด้วยเพื่อสร้างภาพจำหรือพ่วงการขาย Tie-in แบบเนียน ๆ - ไม่สนใจอัลกอริทึม อยากโพสต์หรือพูดอะไรก็ได้
Algorithm หรือวิธีคิดเบื้องหลังของ Facebook ทำให้คนรู้จักได้ เกิดขึ้นจากหลากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความใหม่ของโพสต์ ยกตัวอย่างช่วง 15 นาที คือช่วงที่คนเห็นโพสต์มากที่สุดและจะค่อย ๆ ลดหลั่นลงมา หากโพสต์ในช่วงเวลาที่กลุ่มลูกค้าไม่ได้ใช้งาน Facebook จะมองว่าคอนเทนต์นั้น ๆ กลุ่มลูกค้าไม่สนใจจนลดการมองเห็นเพจไปเรื่อย ๆ - ทำ Facebook Ads โฆษณาเยอะหลายคอนเทนต์
ไม่จำเป็นต้องทำโฆษณาทุกคอนเทนต์ ควรสำรวจว่าคอนเทนต์ไหนให้ความรู้ คอนเทนต์ไหนเพิ่มฐานลูกค้า คอนเทนต์ไหนที่เพิ่มยอดขายอย่างตรงประเด็น ‘โปรโมชัน’ เป็นคอนเทนต์ที่การเข้าถึงน้อยแต่หากเจ้าของธุรกิจต้องการให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมเยอะ ๆ สิ่งเดียวที่ทำได้คือการสร้าง Facebook Ads และไม่ควรมองว่าแบบไหนถูกหรือแพง แต่ควรดูผลลัพธ์ว่าแบบไหนคุ้มหรือไม่คุ้ม
ก่อนทำการตลาดออนไลน์ควรทำความเข้าใจธรรมชาติของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ก่อนเสมอ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีความเฉพาะและมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตัวเอง หากต้องการทำการตลาดออนไลน์บน Facebook แต่ไม่ได้ทำความเข้าใจถึงข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ก่อน ก็เป็นไปได้ยากว่าสร้าง Content Marketing ไปจำนวนมากแล้วจะมีผู้คนมาสนใจ ในขณะเดียวกัน Facebook Ads จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีมากหรือน้อย อ้างอิงตั้งแต่ขั้นตอนแรกว่าธุรกิจสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือมากพอแล้วหรือยัง
