เคลียร์ชัดแบบกระจ่าง 3 องค์ประกอบ SEO on-page off-page และ technical SEO

3 องค์ประกอบ SEO on-page off-page และ technical SEO
สารบัญ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำธุรกิจในปัจจุบันต้องพึ่งพาการตลาดออนไลน์เป็นหลักมากกว่าในอดีต เพราะการตลาดออนไลน์ถือเป็นทางรอดเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้ทั่วโลก หนึ่งในเทคนิคที่ธุรกิจต่าง ๆ นิยมใช้ คือ การทำ SEO ซึ่งเหมาะกับธุรกิจที่มีเว็บไซต์ เน้นการขายออนไลน์ โดยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เว็บไซต์ติดในผลการค้นหาของ Google นั้นไม่จำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายมาก หรือถ้ามีพาร์ตเนอร์เป็นบริษัทเอเจนซี่คอยดูแลก็สามารถลดต้นทุนได้อีกมากเช่นกัน 

แต่ก่อนจะเลือกทำ SEO ต้องรู้ก่อนว่าเหมาะกับธุรกิจหรือไม่ Maz Business Consultant ชวนมาทำความรู้จักกับเทคนิคการทำ SEO หรือ (Search Engine Optimization) คืออะไร ต้องอาศัย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ On-Page SEO, Off-Page SEO และ Technical SEO ที่มีความสำคัญต่อการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ และช่วยดึงดูดผู้เข้าชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจแต่ละส่วนอย่างละเอียด

วิธีการทำงานของ Google และหลักการของเทคนิค SEO

Search Engine คือ เครื่องมือที่ใช้ค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต โดยมีคีย์เวิร์ด (Keyword) เป็นหัวใจสำคัญในการบอกจุดประสงค์ของผู้ใช้ (User) ว่าต้องการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับอะไร และหนึ่งใน ตัวอย่างของ Search Engine ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานก็ คือ Google

เมื่อต้นปี 2024 ได้มีการสรุป Insights พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย ปรากฏตัวเลขกว่า 63.2 ล้านคน คิดเป็น 88% ของประชากรทั้งประเทศ ใช้เวลาบนโลกอินเทอร์เน็ต เฉลี่ย 7 ชั่วโมง 58 นาทีต่อวัน ผ่านสมาร์ตโฟน 5 ชั่วโมง 2 นาที และผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต 2 ชั่วโมง 56 นาที ถือเป็นตัวเลขที่บ่งชี้ว่าคนไทยยังคงนิยมใช้ Google เป็น Search Engine อันดับหนึ่ง และด้วยเหตุผลนี้เจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เน้นขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ จึงควรรู้จักการทำงานของ Google เพื่อการนำเทคนิค SEO มาใช้กับเว็บไซต์ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

SEO คืออะไร การทำ On-Page SEO อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด?

On-Page SEO เป็นเทคนิคการทำ SEO เพื่อปรับปรุงเนื้อหาและองค์ประกอบภายในเว็บไซต์ ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ Search Engine กำลังมองหา เป้าหมายหลักคือการสร้างเนื้อหาที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานและ Search Engine โดยทำให้ Google Bot สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลและทำความเข้าใจกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น

การทำ On-Page SEO จะส่งผลให้เกิดการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการจัดอันดับของเนื้อหาในผลการค้นหา แม้ว่ากระบวนการนี้อาจจะใช้ระยะเวลานาน แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมาก เพราะเมื่อเว็บไซต์ติดอันดับแล้ว มักจะมีโอกาสติดยาว ๆ ในผลการค้นหาอันดับต้น ๆ บนหน้า Google

ส่วนประกอบต่าง ๆ ของการทำ On-Page SEO

  1. การเลือกใช้คีย์เวิร์ดหลัก Focus Keywords ควรเกี่ยวข้องกับคำค้นหาที่ User นิยมใช้ ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์ของคุณตอบโจทย์การค้นหาได้ดีขึ้น
  2. Google มักให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่มีคุณภาพและความถูกต้อง อ่านง่าย สื่อสารดี
  3. การเพิ่มคีย์เวิร์ดเข้าไปใน Title Tag (หากเป็นคำแรก ๆ ยิ่งเป็นผลดี)
  4. การเพิ่มคีย์เวิร์ดเข้าไปในเนื้อหา 150 คำแรก ย่อหน้าแรกของบทความ
  5. การเพิ่มคีย์เวิร์ดเข้าไปใน H1, H2, H3 ของบทความ
  6. เพิ่มคีย์เวิร์ดใกล้เคียงหรือ Related Keywords เข้าไปในเนื้อหา 
  7. ปรับแต่ง URL และเพิ่มคีย์เวิร์ดลงใน URL ของหน้าเว็บเพจนั้น ๆ
  8. การเพิ่มรูปภาพและมัลติมีเดียเพื่อใส่คำอธิบายรูปภาพ (Alt Text)
  9. การทำ Internal Linking เพื่อความสะดวกของ User และเพิ่มโอกาสให้บอทเข้ามา
  10. การทำ External links เพื่อเพิ่มคุณภาพให้คอนเทนต์ ด้วยแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

Off-Page SEO สำคัญอย่างไรและมีวิธีทำอย่างไร?

ในขณะที่ On-Page SEO เป็นการปรับแต่งภายในเว็บไซต์ Off-Page SEO คือ การทำงานนอกเหนือจากเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความนิยมของเว็บไซต์ในสายตาของ Search Engine ส่งผลให้ Google ประเมินคะแนนของเว็บไซต์สูงขึ้น โดยหลักในการทำ Off-Page SEO มีดังนี้

การทำ Backlink

การทำ Backlink SEO คือ การทำ SEO ด้วยการวางลิงก์เว็บไซต์ธุรกิจของคุณ ไว้บนเว็บไซต์นอก เว็บไซต์อื่น ๆ ที่ User สามารถคลิกเข้ามาเจอเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มความน่าสนใจให้กับธุรกิจได้มาก 

การได้รับลิงก์จากเว็บไซต์ภายนอกที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้ Search Engine มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ใช่แค่จำนวนของลิงก์เท่านั้น คุณภาพของลิงก์ก็สำคัญ เนื่องจากลิงก์ของเว็บไซต์ที่มี Domain Authority (DA) สูงจะส่งผลดีต่ออันดับ SEO มากกว่านั่นเอง

ทำ Backlink คุณภาพจากวิธีไหนได้บ้าง?
  1. พาร์ตเนอร์หรือธุรกิจที่มีความสอดคล้องใกล้เคียงกัน แลกเปลี่ยนการทำ Backlink SEO
  2. ติดต่อซื้อพื้นที่สื่อขนาดใหญ่ เพื่อนำเสนอหรือโปรโมตธุรกิจให้เป็นที่รู้จัก
  3. การแชร์คอนเทนต์ผ่าน Social Media ไม่เพียงช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับเว็บไซต์ แต่ยังสร้างลิงก์ย้อนกลับที่มีผลต่อการจัดอันดับของ Google

Technical SEO คืออะไรและมีองค์ประกอบสำคัญอะไรบ้าง?

Technical SEO คือ การปรับปรุงโครงสร้างและระบบของเว็บไซต์เพื่อให้ Search Engine สามารถเข้าถึงและทำความเข้าใจกับเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น เป็นเรื่องของเทคนิคที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์แต่สำคัญต่อการให้ Google จัดอันดับเว็บไซต์

องค์ประกอบหลักของ Technical SEO ได้แก่

  1. การวางโครงสร้างเว็บไซต์ (Sitemap) ที่เรียบง่ายและชัดเจน โดยใช้ Breadcrumb (เมนูที่ใช้นำทางในเว็บไซต์) ให้ User เข้ามาหน้าเว็บไซต์
  2. ปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์ (Page Speed) ลดขนาดรูปภาพ การใช้ Cache และการเลือกโฮสต์ที่มีคุณภาพเพื่อให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น
  3. การใช้ HTTPS ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ Google พิจารณาในการจัดอันดับ ป้องกันมัลแวร์และการโจมตีทางไซเบอร์
  4. การออกแบบเว็บไซต์ (Responsive Design) โดยให้ความสำคัญกับการใช้งานบนมือถือ (Mobile-Friendly)
  5. หลีกเลี่ยงการทำคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาซ้ำ และการนำเนื้อหามาจากเว็บไซต์ภายนอก เพื่อการให้คะแนนของทาง Google
  6. ปรับปรุงแก้ไขจากคำแนะนำ (Core Web Vitals) ที่สามารถเช็กได้จาก Google Search Console
  7. กำหนดค่า Robots.txt เพื่อแจ้งบอท Search Engine ว่าต้องการให้เก็บข้อมูล (Indexing) หน้าเว็บไซต์ไหนบ้าง และหน้าไหนที่ต้องการปิดกั้นการเข้าถึง

ความเชื่อมโยงระหว่าง On-Page, Off-Page และ Technical SEO ของเทคนิค SEO

  1. แม้ว่าการทำ SEO จะแบ่งออก 3 องค์ประกอบหลัก แต่ทั้งหมดก็สามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับ User และ Search Engine ซึ่งการทำ SEO แบบ On-Page SEO จะเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่ดีและปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสม Off-Page SEO เน้นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ในวงกว้าง ในขณะที่ Technical SEO ช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ

    สรุป การทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพจะต้องเข้าใจและใช้ทั้ง 3 องค์ประกอบหลักทั้ง On-Page SEO, Off-Page SEO, และ Technical SEO การปรับแต่งภายในเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย การสร้างความน่าเชื่อถือภายนอก และการดูแลภายในเว็บไซต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ และเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้เข้าชมที่มีคุณภาพ

    การทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google อาจใช้เวลานานกว่าการซื้อโฆษณา แต่เมื่อเทคนิค SEO ช่วยให้หน้าเว็บเพจติดอันดับในหน้าแรกได้แล้ว ผลลัพธ์นี้จะมีความยั่งยืน ไม่เหมือนกับการซื้อโฆษณาที่จะหมดอายุเมื่อครบกำหนดค่าใช้จ่าย การทำ SEO ถือเป็นการตลาดที่มีต้นทุนต่ำมาก โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างแบรนด์และมุ่งเน้นการขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ MAZ เราพร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จัก และสามารถสร้างยอดขายทะลุเป้าหมายได้ ด้วยความชำนาญและกลยุทธ์ทางการตลาดที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี