บริการรับทำเว็บไซต์ PR vs E-commerce แบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ

บริการรับทำเว็บไซต์ PR vs E-commerce แบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ
สารบัญ

เมื่อคุณทำธุรกิจผ่านเว็บไซต์ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ PR Website และ E-commerce Website ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจเติบโต ท่ามกลางยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น การเลือกใช้รูปแบบบริการรับทำเว็บไซต์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรูปแบบเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจ หรือ การจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสำเร็จ ดังนั้น MAZ ขอแชร์ข้อมูลสำคัญที่คุณต้องรู้ ผ่านบทความนี้กัน

บริการรับทำเว็บไซต์ PR Website และ E-commerce ต่างกันอย่างไร?

สิ่งสำคัญที่สุดก่อนเลือกรูปแบบเว็บไซต์คือการรู้ถึงความหมายของทั้งสองตัวเพื่อที่จะสามารถนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกและทำให้เกิดประสิทธิภาพที่ตรงกับวัตถุประสงค์มากที่สุด นอกจากนี้เมื่อคุณไปจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ก็ควรรู้ถึงความหมายของ PR Website และ E-commerce อย่างชัดเจนเพื่อการสื่อสารที่ชัดเจนและไม่ก่อให้เกิดความสับสนระหว่างผู้จ้างและบริษัทรับทำเว็บไซต์

PR Website คืออะไร?

PR Website หรือ Public Relations Website คือ เว็บไซต์ที่ประชาสัมพันธ์หรือการสื่อสารของ แบรนด์ บุคคล หรือ องค์กรโดยเน้นการสื่อสารข้อมูลไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น ลูกค้า นักลงทุน สื่อมวลชน หรือสาธารณชนทั่วไป ซึ่งเป้าหมายหลักของการทำ PR คือ เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อความน่าเชื่อถือ และ รักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรกับลูกค้า

E-commerce คืออะไร?

E-commerce คือ การทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์หรืออินเทอร์เน็ตโดยดำเนินการซื้อและขายได้ง่ายๆ เพียงแค่ลูกค้าเลือกสินค้าที่ต้องการและชำระเงินผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ของร้านค้า ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้าและลูกค้า จึงทำให้การทำเว็บไซต์ E-commerce เป็นที่นิยมและมีคนทำอยู่มากมายในปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเว็บไซต์เปรียบเสมือนหน้าร้านและพนักงานที่คอยให้บริการหรือแนะนำสินค้าแก่ลูกค้าโดยตรง

รูปแบบของ PR Website และ E-commerce Website ต่างกันอย่างไร?

เมื่อเรารู้ถึงความหมายกันของ PR Website และ E-commerce กันแล้วต่อไป MAZ จะขอแชร์ข้อมูลฟีเจอร์หลักของทั้งสองตัวกันว่ามีอะไรบ้าง? และมีแตกต่างกันอย่างไร? เพื่อประกอบการเลือกใช้รูปแบบเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

หัวข้อ PR Website (เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์) E-commerce Website (เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์)
เป้าหมายหลัก
นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ องค์กร หรือบริการ
ขายสินค้าและบริการออนไลน์
กลุ่มเป้าหมาย
ลูกค้า นักลงทุน พันธมิตรสื่อมวลชน
ลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการซื้อสินค้า
เนื้อหาเว็บไซต์
ประวัติบริษัท, ข่าวสาร, บทความ, Portfolio, คำแถลงข่าว
รายละเอียดสินค้า, ราคาสินค้า, รีวิว, วิธีการสั่งซื้อ
ระบบจัดการเนื้อหา (CMS)
มีระบบเพิ่ม/แก้ไขเนื้อหา เช่น บทความและข่าวประชาสัมพันธ์
มีระบบจัดการสินค้า เช่น เพิ่ม/ลบ/อัปเดตราคาและสต็อก
ระบบสมัครสมาชิก
อาจมีหรือไม่มี ใช้เพื่อให้ลูกค้าติดตามข่าวสาร
จำเป็นสำหรับการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าและประวัติการสั่งซื้อ
ระบบตะกร้าสินค้า
ไม่มี
มีตะกร้าสินค้า และฟังก์ชัน Checkout
ระบบชำระเงินออนไลน์
ไม่มี
รองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต โอนเงิน หรือเก็บเงินปลายทาง
ฟีเจอร์ค้นหาสินค้า
อาจมีแค่ช่องค้นหาข้อมูล
มีระบบค้นหาสินค้าและตัวกรอง (Filter)
ระบบรีวิวและเรตติ้ง
มีบางครั้ง
มีระบบรีวิวจากลูกค้าเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
ระบบแจ้งเตือนคำสั่งซื้อ
ไม่มี
มีระบบแจ้งเตือนผ่านอีเมลหรือ SMS
ระบบจัดการโปรโมชั่น
อาจมีแค่การแสดงข่าวสารโปรโมชั่น
มีระบบคูปอง โค้ดส่วนลด และ Flash Sale
SEO & การตลาดออนไลน์
เน้น SEO สำหรับบทความและข่าวสาร
เน้น SEO สำหรับหน้าสินค้า + ใช้โฆษณา (Google Ads, Facebook Ads)

สรุปง่ายๆ PR Website เหมาะกับการสร้างภาพลักษณ์องค์กร ส่วน E-commerce Website เหมาะสำหรับการขายสินค้าออนไลน์โดยตรงนั้นเอง นอกจากนี้หากคุณจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องมีในองค์ประกอบของเว็บไซต์แต่ละรูปแบบ และอาจปรับใช้ตามความเหมาะสม

ธุรกิจของคุณควรเลือกเว็บไซต์รูปแบบไหนระหว่าง PR Website หรือ E-commerce?

ส่วนนี้เป็นส่วนที่ใครหลายๆคนที่เข้ามาอ่านบทความคงจะอยากรู้มากที่สุดว่าธูรกิจของคุณจะเหมาะกับเว็บไซต์รูปแบบไหน งั้นไปเรียนรู้พร้อมกับ MAZ กันเลย

 ธุรกิจที่เหมาะสมกับ PR Website 

  • บริษัทที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ เช่น บริษัทที่ปรึกษา กฎหมาย สถาปัตย์ การตลาด
  • องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเผยแพร่ข่าวสาร (Corporate Website, NGO, หน่วยงานรัฐ)
  • ธุรกิจที่ต้องการสร้าง Brand Awareness เช่น สตาร์ทอัพ หรือองค์กรที่ต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ให้แข็งแกร่ง
  • บุคคลหรือธุรกิจที่ต้องการโชว์ผลงาน (Portfolio, Personal Branding, Blogger)

 ธุรกิจที่เหมาะสมกับ E-Commerce Website 

  • ร้านค้าปลีกหรือค้าส่ง (B2C & B2B) ที่ต้องการขายสินค้าออนไลน์ เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง ฯลฯ
  • ธุรกิจที่ต้องการช่องทางขายของตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่ง Marketplace เช่น Shopee หรือ Lazada
  • ธุรกิจบริการที่ต้องการขายออนไลน์ เช่น คอร์สเรียนออนไลน์ โปรแกรมซอฟต์แวร์ บริการจองโรงแรม หรือท่องเที่ยว
  • ธุรกิจที่ต้องการระบบชำระเงินและการจัดส่ง

ถ้าธุรกิจของคุณต้องการให้คนรู้จักแบรนด์และนำเสนอข้อมูลให้เลือก PR Website ในทางกลับกันถ้าคุณต้องการขายสินค้าออนไลน์ให้เลือก E-commerce Website แต่บางคนคงจะเกิดคำถามว่าใช้พร้อมกับ 2 ตัวได้ไหม MAZ ตอบเลยว่าสามารถทำได้ คุณสามารถผสานฟีเจอร์ของทั้ง PR และ E-commerce Website เข้าด้วยกัน เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเป็นทั้งเครื่องมือประชาสัมพันธ์และแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ในที่เดียว

บริษัทรับทำเว็บไซต์ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับความต้องการของธุรกิจ?

การเลือก บริษัทรับทำเว็บไซต์ เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ หากเลือกได้เหมาะสมจะส่งผลให้เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาตอบโจทย์ความต้องการของคุณและสามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพได้ดี ในการเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้:

  • เข้าใจความต้องการของธุรกิจ
    บริษัทรับทำเว็บไซต์ต้องที่ความเข้าใจถึงความต้องการของธุรกิจว่าต้องการที่จะประชาสัมพันธ์หรือขายสินค้าออนไลน์ รวมถึงฟัเจอร์ต่างๆที่ลูกค้าต้องการจากเว็บไซต์
  • ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์
    บริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการทำ PR Website หรือ E-commerce Website เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในผลงาน
  • ฟีเจอร์และความสามารถในการปรับแต่ง
    เลือกบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความยืดหยุ่นในการพัฒนาเว็บไซต์ตามความต้องการในอนาคต
  • การสนับสนุนหลังการขาย (Support & Maintenance)
    เว็บไซต์ต้องได้รับการดูแลและอัปเดตอยู่เสมอ ดังนั้นควรเลือกบริษัทที่มีบริการ Support และ Maintenance อย่างต่อเนื่อง เช่น การอัปเดตเว็บไซต์ตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี, การแก้ไขปัญหาหรือบั๊กต่าง ๆ หลังจากการเปิดใช้งาน, การปรับปรุงเนื้อหาและฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตามความต้องการ
  • ความโปร่งใสและการสื่อสาร
    การสื่อสารที่ดีและชัดเจนระหว่างคุณกับบริษัทรับทำเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้งานสำเร็จตามเวลาที่กำหนดและมีคุณภาพตรงตามที่คุณต้องการ

การเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมีคุณภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจของคุณ

หากคุณยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกบริษัทไหนเราขอแนะนำบริษัท MAZMAKER เป็นผู้ช่วยเหลือในการทำเว็บไซต์ให้ตรงตามความต้องการของคุณ และมีประสิทธิภาพในการใช้งานจริง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริการรับทำเว็บไซต์

PR Website คือเว็บไซต์ที่เน้นการประชาสัมพันธ์และสื่อสารข้อมูลขององค์กร แบรนด์ หรือบุคคลไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยมุ่งสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ที่ดี ส่วน E-commerce คือเว็บไซต์ที่เน้นการซื้อขายสินค้าออนไลน์ มีระบบชำระเงินและจัดส่งสินค้า ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทันที

ธุรกิจที่เหมาะกับการทำ PR Website ได้แก่ บริษัทที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ (เช่น บริษัทที่ปรึกษา กฎหมาย สถาปัตย์ การตลาด), องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเผยแพร่ข่าวสาร (Corporate Website, NGO, หน่วยงานรัฐ), ธุรกิจที่ต้องการสร้าง Brand Awareness (เช่น สตาร์ทอัพ) และบุคคลหรือธุรกิจที่ต้องการโชว์ผลงาน (Portfolio, Personal Branding, Blogger)

E-commerce Website เหมาะกับธุรกิจประเภทร้านค้าปลีกหรือค้าส่ง (B2C & B2B) ที่ต้องการขายสินค้าออนไลน์, ธุรกิจที่ต้องการช่องทางขายของตัวเองโดยไม่พึ่ง Marketplace, ธุรกิจบริการที่ต้องการขายออนไลน์ (เช่น คอร์สเรียน ซอฟต์แวร์ บริการจองโรงแรม) และธุรกิจที่ต้องการระบบชำระเงินและการจัดส่ง

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ ได้แก่ ความเข้าใจความต้องการของธุรกิจคุณ, ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของบริษัท, ฟีเจอร์และความสามารถในการปรับแต่ง, การสนับสนุนหลังการขาย (Support & Maintenance) และความโปร่งใสในการสื่อสาร ซึ่งจะช่วยให้ได้เว็บไซต์ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการได้ดี

ก่อนใช้บริการรับทำเว็บไซต์ คุณควรเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ให้ชัดเจน (ต้องการ PR Website หรือ E-commerce), กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ, ฟีเจอร์ที่ต้องการ, งบประมาณ, ระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน และตัวอย่างเว็บไซต์ที่ชื่นชอบ เพื่อให้การสื่อสารกับบริษัทรับทำเว็บไซต์มีความชัดเจนและไม่เกิดความสับสน