ในยุคดิจิทัลที่การตลาดออนไลน์มีบทบาทสำคัญ ธุรกิจ SME จำเป็นต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งเพื่อแข่งขันในตลาด คำถามสำคัญที่หลายธุรกิจเผชิญ คือ ควรเลือกใช้บริการจากบริษัทการตลาดอย่าง (Marketing Agency) ที่มีบริการรับทำการตลาดออนไลน์ หรือสร้างทีมการตลาดภายในองค์กร (In House Agency) ดี บทความนี้จะวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของทั้งสองทางเลือก เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าอะไรคุ้มค่ากว่าสำหรับธุรกิจ SME ของคุณ
บทบาทของ Marketing Agency คืออะไร?
Marketing Agency หรือบริษัทการตลาด คือองค์กรที่ให้บริการด้านการตลาดแบบครบวงจรแก่ลูกค้า บริการเหล่านี้อาจรวมถึงการวางแผนกลยุทธ์ การทำโฆษณา การสร้างแบรนด์ การทำการตลาดดิจิทัล และอื่นๆ Digital Marketing Agency มักมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายด้าน พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าหลายรายในเวลาเดียวกัน
ข้อดีของการใช้บริการ Marketing Agency
- ความเชี่ยวชาญหลากหลาย: Marketing Agency มักมีทีมงานที่มีทักษะหลากหลาย ทำให้สามารถจัดการกับความต้องการด้านการตลาดที่ซับซ้อนได้
- ประหยัดเวลาและทรัพยากร: ธุรกิจ SME สามารถมุ่งเน้นไปที่ core business ในขณะที่ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลด้านการตลาด รับทำการตลาดให้
- เข้าถึงเทคโนโลยีและเครื่องมือล่าสุด: เอเจนซี่มักลงทุนในเครื่องมือและเทคโนโลยีการตลาดล่าสุด ซึ่งอาจมีราคาสูงเกินไปสำหรับ SME ที่จะลงทุนเอง
- มุมมองภายใหม่ๆ: บริษัทเอเจนซี่สามารถให้มุมมองใหม่ ๆ และความคิดสร้างสรรค์จากประสบการณ์ดูแลธุรกิจกลายประเภท ซึ่งอาจแตกต่างจากทีมภายใน
ข้อเสียของการใช้บริการ Marketing Agency
- ค่าใช้จ่ายสูง: การจ้าง Marketing Agency อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการมีทีมภายใน โดยเฉพาะในระยะยาว
- การสื่อสารอาจไม่ราบรื่น: หากเลือกจ้างเอเจนซี่ที่ขาดความเป็นมืออาชีพ อาจเกิดการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ส่งผลให้เกิดความล่าช้าและความไม่ชัดเจนระหว่างองค์กรและเอเจนซี่
- ความเข้าใจในแบรนด์อาจไม่ลึกซึ้ง: Marketing Agency บางเจ้าไม่มีความพยายามในการทำความเข้าใจวัฒนธรรมและค่านิยมของแบรนด์ ไม่สอบถาม ไม่ทราบข้อมูลลึกซึ้งเท่ากับทีมภายใน
บทบาทของ In House Agency คืออะไร?
In House Agency หมายถึงทีมการตลาดภายในองค์กรที่รับผิดชอบการวางแผนและดำเนินการด้านการตลาดและรับทำการตลาดทั้งหมด โดยเป็นทีมที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานให้เฉพาะบริษัทของตนเอง โดยมีความเข้าใจลึกซึ้งในผลิตภัณฑ์ บริการ และวัฒนธรรมองค์กร
ข้อดีของการมี In House Agency
- ความเข้าใจในแบรนด์: ทีมภายในมีความเข้าใจในวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมของบริษัทอย่างลึกซึ้งมากกว่าองค์กรภายนอก
- การสื่อสารที่รวดเร็ว: การประสานงานและการตัดสินใจสามารถทำได้รวดเร็วกว่า
- ควบคุมได้มากกว่า: บริษัทสามารถควบคุมกระบวนการและผลลัพธ์ได้โดยตรง
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว: แม้จะมีค่าใช้จ่ายการเริ่มก่อตั้งทีมสูง ทั้งการลงทุนกับเทคโนโลยีและบุคลากร แต่อาจประหยัดกว่าในระยะยาว
ข้อเสียของการมี In House Agency
- ขาดมุมมองภายนอก: ทีมภายในอาจขาดมุมมองใหม่ๆ และความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลาย
- ต้นทุนเริ่มต้นสูง: การสร้างทีมและลงทุนในเครื่องมือต่างๆ อาจมีค่าใช้จ่ายสูงในช่วงแรก
- ข้อจำกัดด้านทักษะ: อาจไม่มีความเชี่ยวชาญครบทุกด้านเหมือน Marketing Agency
เปรียบเทียบ Marketing Agency vs In House Agency
เจ้าของธุรกิจหลายคนคงเคยสงสัยว่า การจ้างบริษัทการตลาด (Marketing Agency) รับทำการตลาดออนไลน์มาดูแลให้ หรือตั้งทีมภายในขึ้นมาเอง (In House) แบบไหนคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์กว่ากัน ซึ่งก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าทั้งทีมเอเจนซี่รับทำการตลาดและทีมภายในมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้การจะมองว่าแบบไหนคุ้มกว่ากัน เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องพิจารณาตั้งแต่ปัจจัยด้านงบประมาณ บุคลากร เครื่องมือ ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์
ดังนั้น เมื่อเจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องสำรวจธุรกิจของตัวเองก่อน ว่ามีความพร้อมในระดับไหน หากมีทรัพยากรเพียงพอ และต้องการทีมภายในก็สามารถตั้งทีมงานการตลาดออนไลน์ขององค์กรได้เลย หรือหากยังเป็นเจ้าของธุรกิจมือใหม่ จับทิศทางธุรกิจไม่ได้ การจ้างบริษัทการตลาดหรือ Marketing Agency จะทำให้เจ้าของธุรกิจได้มุมมองใหม่ ๆ ได้ริเริ่มและเรียนรู้ตลาดไปพร้อมกัน
1.ด้านต้นทุน
Marketing Agency
การการบริษัทเอเจนซี่รับทำการตลาดให้เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจ จะง่ายต่อการจัดการงบประมาณทั้งในระยะสั้นและระยะยาวมากกว่า ซึ่งหากมองในมุมมองภาพรวมความคุ้มค่า การจ้าง Marketing Agency อาจคุ้มมากกว่าเยอะ หากเทียบกับปริมาณการจ้างให้จบไปทีละงาน ไม่ต้องคอยปวดหัวดูแลการตลาดและบริหารธุรกิจ หยิบจับอะไรหลาย ๆ อย่างให้วุ่นวาย
In House Agency
ถึงแม้ว่าการจ้าง In House จะใช้งบประมาณเริ่มต้นมากขนาดไหน แต่ถ้าคุณเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ มีทั้งทรัพยากรบุคคลและความพร้อมด้านงบประมาณ การจัดตั้งทีมการตลาดเป็นของตัวเองก็จะง่ายต่อการสร้างแคมเปญในอนาคต
2.ด้านความเชี่ยวชาญและความคิดสร้างสรรค์
Marketing Agency
มีความเชี่ยวชาญหลากหลายจากประสบการณ์ทำงานร่วมกับธุรกิจหลายประเภท โดยเฉพาะในส่วนของงานคอนเทนต์ ความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบกลยุทธ์ และการทำโฆษณาต่าง ๆ Marketing Agency บริษัทการตลาดจะทำได้สดใหม่และตามทันเทรนด์ได้มากกว่า เพราะอยู่ในแวดวงการรับทำการตลาดออนไลน์ ผ่านการศึกษาและวิเคราะห์กลุ่มบริโภคจากลูกค้าหลาย ๆ เจ้า ส่งผลต่อมุมมองต่อเทรนด์ใหม่ ๆ หรือกระแสสังคมกว้างกว่า In House
In House Agency
มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรง สามารถต่อยอดแคมเปญให้สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจ แต่อาจจะจำกัดในบางด้าน อย่างเช่น การสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข็งให้ตรงจุดจากเทรนด์ กระแสโซเชียล การสร้างโฆษณา เป็นต้น
3.ด้านความยืดหยุ่น
Marketing Agency
บริษัทการตลาดหรือทีมเอเจนซี่สามารถปรับเปลี่ยนขอบเขตงานได้ง่าย และรองรับโปรเจกต์ขนาดใหญ่ได้ดี เนื่องจากเอเจนซี่มีหน้าที่ดูแลงานด้านการตลาดเพียงอย่างเดียว ทำให้มีเวลาให้ความสำคัญกับปัญหาและสร้างแนวทางแก้ไขได้อย่างหลากหลายจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ตลอดจนการจัดสรรเวลาได้ดี และประสิทธิภาพของงาน
In House Agency
มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนงานภายในองค์กร มีความรวดเร็วตั้งแต่การนำเสนอและอนุมัติ สามารถควบคุมและบริหารงาน บริหารเวลาได้ตามความต้องการ ซึ่งได้เปรียบเรื่องของขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินงาน แต่อาจมีข้อจำกัดด้านทรัพยากร เช่น เครื่องมือหรือเทคโนโลยีสำหรับการตลาด
สรุปแล้ว ‘จ้างบริษัทการตลาด’ กับ ‘สร้างทีมใหม่’ อะไรคุ้มค่ากว่าสำหรับธุรกิจ SME?
การเลือกระหว่าง Marketing Agency และ In House Agency ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งด้านขนาดและงบประมาณของธุรกิจ หากคุณคือ SME ขนาดเล็กอาจเหมาะกับเอเจนซี่มากกว่า เนื่องจากไม่ต้องลงทุนสูงในการสร้างทีมภายใน หรือหากธุรกิจต้องการการตลาดที่หลากหลายและซับซ้อน เอเจนซี่รับทำการตลาดอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
กลับกันหากธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการควบคุมภายในองค์กร หรือเป็นการทำงานที่ต่อเนื่อง โครงการระยะยาว การก่อตั้งทีมหรือทำงานแบบ In House Agency อาจจะเหมาะมากกว่า
สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า Marketing Agency หรือ In House Agency อะไรคุ้มค่ากว่า เพราะทั้งสองทางเลือกมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่สำหรับ SME ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือมีงบประมาณจำกัด การเริ่มต้นด้วย Marketing Agency อาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะสามารถเข้าถึงความเชี่ยวชาญได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สิ่งสำคัญคือการประเมินความต้องการของธุรกิจอย่างรอบคอบ และเลือกวิธีที่จะช่วยให้ธุรกิจ SME ของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
