Google Core Update คืออะไร มีผลทำให้อันดับร่วงได้

Google Core Update คืออะไร มีผลทำให้อันดับร่วงได้
สารบัญ

ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมจาก Google Core Update หลายเว็บไซต์อาจพบว่าอันดับในการค้นหาลดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับผู้ที่ทำ SEO อยู่ในปัจจุบัน และแม้ว่าการอัปเดตนี้จะไม่ได้เป็นการลงโทษเว็บไซต์ใดโดยตรง แต่ก็ส่งผลให้จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การนำเสนอเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับแนวทางที่ Google ให้ความสำคัญ

ดังนั้น การวางแผนอย่างเหมาะสม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ รับทำ seo  อย่างมีระบบ จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ผลกระทบและปรับปรุงเว็บไซต์ให้กลับมามีอันดับที่ดีได้ในระยะยาว

การปรับปรุงอัลกอริธึมหลักของ Google คืออะไร และเกี่ยวข้องกับ SEO อย่างไร

การปรับปรุงอัลกอริธึมหลักของ Google คือการอัปเดตอัลกอริทึมหลักของระบบการค้นหา (Search Algorithm) ที่ Google ดำเนินการเป็นระยะ สำหรับผู้ที่ดูแลเว็บไซต์หรือทำ SEO การติดตามการอัปเดตอัลกอริทึมหลักของ Google อย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลการค้นหาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด โดยอัปเดตลักษณะนี้จะส่งผลในวงกว้าง อาจทำให้เว็บไซต์บางแห่งอันดับดีขึ้น ขณะที่บางเว็บไซต์อาจร่วงลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะการอัปเดตนี้ไม่ใช่การ “ลงโทษ” เว็บไซต์ แต่คือการปรับปรุงระบบให้แสดงผลเว็บไซต์ที่มีคุณภาพมากขึ้น หากเว็บไซต์ไม่ได้รับผลกระทบ อาจเป็นสัญญาณที่ดีว่าแนวทางนี้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ Google แล้ว

ความแตกต่างระหว่าง Google Core Update vs. Google Algorithm Update

เป็นการปรับปรุงเพียงเล็กน้อยหรือเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่หากเป็น Google Core Update จะหมายถึงการอัปเดตในระดับโครงสร้างหลักของอัลกอริธึม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ในหน้าผลลัพธ์การค้นหา

การรีเฟรชระบบจัดอันดับของ Google อัปเดตบ่อยแค่ไหน - เรื่องที่สาย SEO ต้องติดตาม

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการดันเว็บไซต์จำเป็นต้องอัปเดตความรู้และตรวจสอบคุณภาพเนื้อหาการรับทำ seoอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก Google มักปรับอัลกอริทึมหลัก (Core Algorithm) ประมาณ 3–4 ครั้งต่อปี ซึ่งเท่ากับว่าทุกๆ 3–4 เดือน จะมีการประเมินระบบการจัดอันดับใหม่อีกครั้ง โดยส่วนใหญ่การอัปเดตเหล่านี้จะไม่ถูกประกาศล่วงหน้า และเมื่อเริ่มต้นใช้งานจริง Google จะใช้เวลาประมาณ 1–2 สัปดาห์ในการทำให้ผลการค้นหาเข้าสู่ภาวะปกติ หากพบว่าอันดับเว็บไซต์ของคุณผันผวนผิดปกติในช่วงเวลาดังกล่าว นั่นอาจเป็นสัญญาณของการอัปเดต Core Update ที่กำลังมีผลอยู่นั่นเอง

ปัจจัยสำคัญที่ Google Update แล้วกระทบต่อ SEO

ในการอัปเดตอัลกอริทึมแต่ละครั้ง Google จะอ้างอิงหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่สะท้อนถึงคุณภาพของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ SEO บางเว็บไซต์อันดับดีขึ้น ขณะที่บางแห่งอันดับลดลงหลังจากเกิดการอัปเดตอัลกอริทึมหลักของ Google โดยปัจจัยหลักที่ Google ให้ความสำคัญมีดังนี้ :

1. คุณภาพของเนื้อหา (Content Quality)

Google ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่เป็นต้นฉบับ มีคุณค่า และตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างแท้จริง เว็บไซต์  SEO ที่มีการคัดลอกเนื้อหา หรือมีข้อมูลไม่ครบถ้วนมักได้รับผลกระทบจาก Core Update

2. หลักการ E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness)

เป็นแนวทางการประเมินคุณภาพเนื้อหาในแง่ของความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ การเงิน หรือเนื้อหาที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้

3. ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience – UX)

ความเร็วของเว็บไซต์ การใช้งานผ่านมือถือ และการนำทางที่เป็นมิตร ล้วนมีผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้ และกลายเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่ออันดับเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงหลักของอัลกอริทึม Google

4. ความตรงกับเจตนาการค้นหา (Search Intent)

Google ต้องการให้ผลลัพธ์การค้นหาตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการอย่างแท้จริง หากเว็บไซต์ไม่ตอบโจทย์เป้าหมายของผู้ค้นหา อาจถูกลดอันดับลงได้

5. Technical ที่มีประสิทธิภาพ

องค์ประกอบทางเทคนิค เช่น โครงสร้างเว็บไซต์ ความสามารถในการจัดทำดัชนี (Indexing) และการเชื่อมโยงภายใน (Internal Linking) ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ

ผลกระทบของการรีเฟรชระบบจัดอันดับของ Google ต่ออันดับ SEO ของเว็บไซต์

เมื่อตัวตนของ Core Update จาก Google ถูกปล่อยออกมา เว็บไซต์ที่ทำ SEO หลายแห่งอาจพบความเปลี่ยนแปลงในอันดับการค้นหาอย่างเห็นได้ชัด บางเว็บอาจไต่ขึ้นสู่อันดับต้น ในขณะที่บางเว็บกลับร่วงลงอย่างน่าตกใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ Google ปรับเกณฑ์ประเมินคุณภาพเว็บไซต์ใหม่

สิ่งที่เว็บไซต์ควรรู้เกี่ยวกับผลกระทบของ Google Core Update ต่อการทำอันดับ SEO มีดังนี้:

  • อันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาลดลง แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหรือโครงสร้างใด 
  • ปริมาณผู้เข้าชม (Traffic) ลดลง ส่งผลต่อยอดขายหรือเป้าหมายทางการตลาด
  • ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ลดลงในสายตาของผู้ใช้งาน หากอันดับลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การที่อันดับร่วงไม่ได้แปลว่าเว็บไซต์ถูกลงโทษเสมอไป แต่เป็นสัญญาณที่ควรหันกลับมาทบทวนคุณภาพเนื้อหาและประสบการณ์ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การแข่งขันด้านการตลาดผ่านเสิร์ชเอนจินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านรับทำ seo อย่างมืออาชีพ จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงหลักของอัลกอริทึม Googleได้อย่างเป็นระบบ พร้อมวางแผนการปรับปรุงเว็บไซต์ให้กลับมาฟื้นอันดับได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

การอัปเดตอัลกอริทึมหลักของ Google แบบเรียลไทม์สำหรับคนทำ SEO

การติดตามความเคลื่อนไหวของการอัปเดต Core Algorithm ของ Google อย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสายงาน SEO เพราะช่วยให้สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงของอันดับเว็บไซต์ได้ทันสถานการณ์ หากพบว่าได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ก็สามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผล

แหล่งติดตามอัปเดต Core ของ Google แบบเรียลไทม์ ที่แนะนำ ได้แก่

  1. Google Search Central Blog
  2. บัญชี Twitter/X: @googlesearchc (Google SearchLiaison)
  3. เว็บไซต์ติดตาม Ranking เช่น Semrush Sensor, MozCast, SERPmetrics
  4. กลุ่มผู้เชี่ยวชาญรับทำ seo บน Facebook หรือ Google

เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจากการอัปเดตอัลกอริทึมหลักของ Google หลายเว็บไซต์อาจได้รับผลกระทบทั้งในแง่ของอันดับการค้นหาและปริมาณผู้เข้าชม ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติของการปรับปรุงระบบโดย Google

 

สิ่งสำคัญคือ อย่าตื่นตระหนก แต่ควรปรับตัวอย่างมีแบบแผน โดยเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ผลกระทบ ตรวจสอบคุณภาพเนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ และประสบการณ์ผู้ใช้งาน เพื่อปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นตามแนวทางที่ Google แนะนำ

รับมือ Update จาก Google อย่างมั่นใจ ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO จาก MAZMAKER

MAZMAKER ผู้เชี่ยวชาญด้านการ รับทำ seo พร้อมให้บริการวิเคราะห์ผลกระทบจาก Core Update แบบเจาะลึก วางกลยุทธ์ใหม่ และดูแลการปรับปรุงเว็บไซต์ให้กลับมาติดอันดับอย่างมั่นคงในระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจทั้งเทคนิคการปรับเว็บไซต์ให้ติดอันดับและการวางแผนกลยุทธ์ MAZ พร้อมช่วยคุณวิเคราะห์และรับมือกับผลกระทบจาก Google Core Update อย่างมืออาชีพ