Home » Feasibility study ไขข้อสงสัยกับ 5 คำถามยอดฮิตก่อนเริ่มทำธุรกิจ
สารบัญ
เมื่อเริ่มต้นธุรกิจใหม่ หลายคนมักเจอกับคำถามใหญ่ในใจว่า “ธุรกิจนี้ไปต่อได้จริงหรือไม่” การทำ Feasibility study จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในทุกมิติ ทั้งด้านตลาด การเงิน และการดำเนินงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการเห็นภาพรวมก่อนลงมือจริง และต่อยอดไปสู่การจัดทำ Feasibility plan ที่ใช้ได้จริงและสื่อสารกับนักลงทุนได้อย่างมีน้ำหนัก
และในบทความนี้จะพาไปไขข้อสงสัยกับ 5 คำถามยอดฮิตที่ผู้ประกอบการมักอยากรู้ว่าจะช่วยให้คุณเริ่มต้นธุรกิจอย่างมั่นใจได้อย่างไร
Feasibility study คืออะไร ทำไมต้องทำก่อนเริ่มธุรกิจ
การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ การทำ Feasibility study หรือการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามก็คือเพราะสิ่งนี้จะช่วยตอบคำถามได้ว่าธุรกิจที่คิดไว้สามารถทำได้จริงหรือไม่ และคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือเปล่า
ความหมายของ Feasibility study และความสำคัญ
Feasibility study (การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ) คือ กระบวนการวิเคราะห์เชิงลึกที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้บริหารองค์กร สามารถประเมินได้ว่าโครงการหรือธุรกิจที่กำลังจะเริ่มต้นนั้น คุ้มค่าและมีความเป็นไปได้จริงหรือไม่ ซึ่งการศึกษานี้จะใช้ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพมาประกอบการตัดสินใจ ไม่ใช่อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณหรือความรู้สึก
หัวใจสำคัญของการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการคือการประเมินในหลายมิติ ได้แก่
1. ด้านการตลาด (Market Feasibility)
เพื่อวิเคราะห์ว่าธุรกิจตอบโจทย์ความต้องการของตลาดหรือไม่ มีคู่แข่งมากน้อยเพียงใด กลุ่มเป้าหมายชัดเจนหรือยัง และพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่ามี “ตลาดรองรับจริง”
2. ด้านการเงิน (Financial Feasibility)
เพื่อตรวจสอบต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ คาดการณ์รายได้ ผลตอบแทน (ROI) กระแสเงินสด และระยะเวลาคืนทุน เพื่อดูว่าธุรกิจมีความคุ้มค่าและยั่งยืนทางการเงินหรือไม่
3. ด้านการดำเนินงาน (Operational Feasibility)
เพื่อพิจารณาความพร้อมของทรัพยากร เช่น บุคลากร วัตถุดิบ ซัพพลายเชน รวมถึงกระบวนการจัดการภายในองค์กร ว่ามีความสามารถในการรองรับแผนธุรกิจได้จริงหรือไม่
4. ด้านเทคนิค (Technical Feasibility)
เพื่อตรวจสอบระบบ เทคโนโลยี เครื่องจักร หรือซอฟต์แวร์ ว่ามีความสามารถรองรับธุรกิจได้หรือไม่ สามารถต่อยอดได้ในอนาคตหรือเปล่า และมีความเสี่ยงทางเทคนิคมากน้อยแค่ไหนทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปสร้าง Feasibility plan ที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีทิศทางชัดเจน เพิ่มความมั่นใจเมื่อต้องนำเสนอแก่ผู้ลงทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจ เสมือนเป็นเข็มทิศที่จะบอกว่าธุรกิจควรเดินต่อหรือควรปรับแผนใหม่ก่อนลงมือจริง
5 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Feasibility study ที่ผู้ประกอบการควรรู้
1. Feasibility study ช่วยลดความเสี่ยงธุรกิจได้จริงหรือ
คำตอบคือ “ใช่” เพราะการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการจะช่วยให้ผู้ประกอบการเห็นทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของธุรกิจอย่างรอบด้าน เมื่อคุณเข้าใจข้อมูลเหล่านี้ คุณจะสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมพร้อมตั้งรับกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและลดการตัดสินใจแบบเสี่ยงดวง ทำให้โอกาสความสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
2. Feasibility plan (แผนการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ) ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง
การจัดทำ Feasibility plan ที่ดีควรครอบคลุมทั้ง 4 ข้อสำคัญ ได้แก่
- Market Analysis : ประเมินดีมานด์ ศักยภาพกลุ่มเป้าหมาย และสภาพการแข่งขัน
- Financial Analysis : วิเคราะห์ต้นทุน กระแสเงินสด และผลตอบแทนจากการลงทุน
- Operational Analysis : ตรวจสอบทรัพยากร กระบวนการ และศักยภาพทีมงาน
- Legal & Regulatory Analysis : ประเมินข้อกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเสี่ยง
เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ
3. การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการใช้เวลาและงบประมาณมากน้อยแค่ไหน
ระยะเวลาและงบประมาณขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจและความซับซ้อนของโครงการ ซึ่งโดยทั่วไปอาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน ส่วนงบประมาณก็มีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมหาศาลจากการลงทุนที่ผิดพลาด
4. หากเป็นธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องทำ Feasibility study หรือไม่
หลายคนคิดว่าเฉพาะธุรกิจใหญ่เท่านั้นที่ควรทำแต่จริงๆ แล้วธุรกิจขนาดเล็กยิ่งต้องใช้ เพราะเป็นวิธีประเมินว่าไอเดียของคุณสามารถสร้างรายได้จริงหรือไม่ แม้ไม่ต้องทำรายงานใหญ่โต แต่การเก็บข้อมูลตลาด วิเคราะห์ต้นทุน และทำ Feasibility plan แบบเบื้องต้นก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
5. จะประเมินได้อย่างไรว่า Feasibility study ที่ทำออกมามีความน่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือของ Feasibility study ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ โดยข้อมูลควรมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีการเปรียบเทียบกับสภาพตลาดจริง และผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้หากผลการศึกษาได้รับการสรุปเป็นแผนที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงก็จะยิ่งเป็นหลักฐานยืนยันถึงความถูกต้องและคุณค่าของการศึกษาดังกล่าว
เพราะไม่ว่าจะเป็นด้านตลาด การเงิน ทรัพยากร หรือการดำเนินงาน ผลการศึกษานี้ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน แต่ยังช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีหลักการมากขึ้น การมีข้อมูลจาก Feasibility study จึงเปรียบเสมือนเข็มทิศ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการกำหนดทิศทางและวางกลยุทธ์ได้ตรงเป้า
นอกจากนี้ การนำข้อมูลที่ได้ไปต่อยอด ยังช่วยให้การนำเสนอโครงการต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน หรือพันธมิตรทางธุรกิจดูน่าเชื่อถือและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
เริ่มต้นธุรกิจอย่างมั่นใจด้วย Mazmaker ที่ปรึกษาด้าน Feasibility study
หลายธุรกิจมักมีไอเดียที่ดี แต่ไม่มั่นใจว่าจะทำให้เกิดขึ้นจริงได้หรือไม่
MAZ Business Consultant เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านการทำ Feasibility study เพื่อช่วยประเมินและวิเคราะห์ปัจจัยรอบด้านอย่างเป็นกลาง ครอบคลุมทั้งมิติการตลาด ความเป็นไปได้เชิงการเงิน และความคุ้มค่าในเชิงปฏิบัติการ
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ SME สตาร์ทอัพ หรือองค์กรขนาดใหญ่ ทีมงานจะช่วยออกแบบแผนที่สามารถนำไปใช้ได้จริง พร้อมข้อมูลเชิงลึกที่ตอบโจทย์ผู้บริหาร นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
MAZ Business Consultant พร้อมเป็นที่ปรึกษาที่อยู่เคียงข้างธุรกิจของคุณ ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน Feasibility study และการจัดทำ Feasibility plan มานานกว่า 10 ปี เรามุ่งเน้นการวิเคราะห์เชิงลึกและการให้คำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการวางแผนธุรกิจอย่างมั่นใจ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
เพราะทุกการตัดสินใจทางธุรกิจควรมีข้อมูลรองรับ
หากคุณกำลังมองหาทีมงานที่เข้าใจทั้งเชิงกลยุทธ์และการปฏิบัติจริง MAZ พร้อมก้าวไปกับคุณในทุกขั้นตอนของการเริ่มต้นธุรกิจ
