เพิ่มยอดขาย ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ ด้วยการวิเคราะห์ DATA

“เพิ่มยอดขาย ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ”
ประโยคนี้ไม่ได้พูดส่งเดช #แต่MAZทำได้จริง
ด้วยการนำระบบ Data Analytic Solution มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งเราได้นำมาใช้ในหลาย ๆ ประเภทธุรกิจแล้ว อยากบอกว่า #มันปังจริง ๆ นะ
ลองมาศึกษาข้อมูลคร่าว ๆ กันนะครับ ว่า Data Analytic Solution ของ Maz ช่วยอะไรธุรกิจคุณได้บ้าง

Customer Profile

การเก็บข้อมูลลูกค้าแต่ละราย เป็นการเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น ชื่อ เพศ อายุ ที่อยู่ เบอร์โทร ประวัติการใช้บริการ ข้อมูลการใช้บริการ เป็นต้น ซึ่งสามารถปรับแต่งให้ตรงกับธุรกิจของคุณได้ตามความเหมาะสมช่วยอะไรบ้าง? – ทำให้เราเข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทำให้รู้ว่าลูกค้าของเราคือใคร ลูกค้าต้องการอะไร มีพฤติกรรมการบริโภคอย่างไร – ทำให้รู้ว่าธุรกิจของเรา ต้องโฟกัสที่การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่า หรือจำเป็นต้องเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ – นำไปสู่การทำให้รู้ว่าเราควรจะตอบสนองลูกค้าแต่ละคนในรูปแบบไหน

Data Visualization

Data visualization ช่วยอะไรบ้าง? – นำเอาข้อมูลที่มี มาแสดงเป็นภาพ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ และสื่อให้เห็นถึงข้อมูลที่น่าสนใจ – ทำให้เราเห็นแนวโน้ม รูปแบบพฤติกรรม หรือความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันของข้อมูล – ทำให้เข้าใจธุรกิจได้ดีมากยิ่งขึ้น เข้าใจสิ่งที่ธุรกิจเป็นอยู่ และชี้ให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปวิเคราะห์แนวทางการดำเนินการต่อไปในธุรกิจ

Low & High Spender

​ช่วยให้ทราบว่าลูกค้าที่จ่ายเงินให้เรามากที่สุดและน้อยที่สุดเป็นใคร คัดกรองข้อมูลส่วนนี้เพื่อให้รู้ว่า คนที่จ่ายให้เรามากสุด และน้อยสุดเป็นคนประมาณไหน 2 กลุ่มนี้แตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่เราจะได้รับมือ และดูแลลูกค้ากลุ่มได้ถูกจุด

Customer Ratio

ช่วยให้เรารู้อัตราส่วนลูกค้าใหม่/ลูกค้าเก่า 1. หากอัตราส่วนลูกค้าใหม่มากกว่า แสดงว่า ธุรกิจเรามีปัญหาตรงจุดไหนที่ทำให้ลูกค้าเก่าเลือกที่จะไม่ใช้ซ้ำ หรือเปล่า? 2. หากอัตราส่วนลูกค้าเก่าเยอะกว่า แสดงว่า การตลาดเราไม่แกร่งพอที่จะหาลูกค้าใหม่ได้ หรือเปล่า?ข้อมูลนี้จึงมีประโยชน์ต่อธุรกิจตรงที่เราจะได้รู้วิธีรับมือ แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

Heat Map

คือตัวแสดงความหนาแน่นและตำแหน่งของลูกค้า รู้ว่าลูกค้าของเราอยู่พิกัดไหน และความถี่ในการใช้บริการ/สั่งซื้อมากน้อยแค่ไหน ตรงนี้จะช่วยให้เราเลือกเน้นทำการตลาดได้ถูก เช่น พื้นที่ไหนคนซื้อใช้สินค้า/บริการ เราเยอะ ก็เน้นย้ำการตลาดไปตรงจุดนั้นเป็นพิเศษ หรือตรงไหนสินค้า/บริการเราไม่ค่อยเป็นที่นิยม ก็เก็บมาวิเคราะห์ว่าเกิดจากอะไรได้ต่อ

Inventory Value

คือตัวแสดงมูลค่าของสินค้าคงคลัง ต้นทุนเราจมอยู่ที่สินค้าคงคลังของเรามากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ปรับเปลี่ยนการนำเข้าสินค้า ให้สมดุลกับสินค้าที่ยังเหลือ ไม่กระทบค่าใช้จ่าย

Data Analytics ช่วยอะไรธุรกิจได้บ้าง

– วิเคราะห์ข้อมูลและพยากรณ์แนวโน้มทางธุรกิจ – นำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของข้อมูล เพื่ออธิบายสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้น และพยากรณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต – ช่วยในการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง และหาแนวทางการดำเนินการต่อไปในธุรกิจ

Customer Segmentation

คือ การจัดกลุ่มลูกค้า เราสามารถแบ่งกลุ่มจากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ว่าเป็นลูกค้าประเภทไหน ลักษณะเป็นอย่างไร และเราควรทำการตลาดกับเขาแบบไหน

Predicting Next Purchase Day

คือการพยากรณ์ว่าลูกค้าแต่ละคนจะกลับมาใช้บริการ/สั่งซื้ออีกครั้งเมื่อไหร่ เพื่อจัดเตรียมสินค้าได้เพียงพอต่อความต้องการ

Churn Prediction

ปัจจัยที่มีผลต่อการเลิกใช้บริการ แสดงถึงปัจจัยและเปอร์เซ็นต์ที่ลูกค้าจะเลิกใช้บริการเพราะปัจจัยนั้นๆ และลูกค้าแต่ละคนมีเปอร์เซ็นต์การเลิกใช้มากน้อยแค่ไหน จากปัจจัยอะไร

Human Capital Return On Investment หรือ HCROI

คือตัววัดมูลค่าของพนักงานในองค์กร ทำให้รู้ประสิทธิภาพของพนักงาน เงินที่ลงทุนไปกับพนักงานแต่ละคน แต่ละฝ่าย ได้ผลตอบแทน/กำไรกลับมาเท่าไหร่ คุ้มค่าหรือไม่กับการลงทุน

Marketing Automation ช่วยอะไรธุรกิจได้บ้าง

– ช่วยให้การตลาดที่เราทำไปถึงคนที่ใช่ ในช่องทางที่ใช่ ในเวลาที่ใช่
– ลดต้นทุน และเพิ่มศักยภาพในการทำงานของพนักงาน
– สามารถทำการยิง campaign/promotion โดยตรงไปหาฐานลูกค้าที่มีอยู่แล้ว ผ่าน SMS Gmail
– สรุปข้อมูลในการทำ marketing automation ว่าลูกค้ากลับมาใช้จริงๆ กี่ % (conversion rate) และกลับใช้แคมเปญไหนมากหรือน้อยเท่าไหร่

อุตสาหกรรมธุรกิจรูปแบบไหนถึงจะเหมาะกับระบบการทำงานนี้… ตอบได้เลยว่า #ทุกประเภท เพราะไม่มีธุรกิจไหนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลต่างๆ ที่ได้กล่าวไปจริงไหมครับ แต่หากให้แนะนำเป็นพิเศษ ธุรกิจประเภท ขายปลีก ,ธุรกิจ subscription ธุรกิจใดๆ ที่ใช้ข้อมูลจำนวนมาก ควรจะใช้อย่างยิ่ง